เกรียงไกร เกิดศิริ.
(2551). ชุมชนกับภูมิทัศน์วัฒนธรรม. กรุงเทพฯ : อุษาคเนย์.
หน้า 52-53
“สายน้ำ:
จุดกำเนิดชีวิตและภูมิทัศน์วัฒนธรรม”
ในโลกนี้ประกอบด้วยน้ำสามในสี่ส่วน
จึงถือว่าน้ำเป็นบ่อเกิดของสรรพสิ่งสำหรับการเลือกที่ตั้งถิ่นฐานของคนในอดีต มักเลือกพื้นที่ที่มีน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภค
ถ้าไม่ตั้งถิ่นฐานในที่ที่มีแหล่งน้ำสำหรับการใช้สอยก็จะมีภูมิปัญญาในการแสวงหาแหล่งน้ำมาใช้สอยได้ทุกชาติพันธุ์
คนไทยมีความใกล้ชิดกับน้ำมากจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้
น้ำจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกพื้นที่ในการตั้งชุมชนขึ้น และที่สำคัญที่สุด
คือการทำนาข้าวที่ต้องการน้ำในปริมาณมาในการเพาะปลูก สำหรับพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การทำนาข้าว คือ
ที่ราบลุ่มดินตะกอนปากแม่น้ำซึ่งเป็นที่ราบลุ่มที่มีความลาดชันน้อย ซึ่งเป็นเหตุให้มีน้ำท่วมในฤดูน้ำหลากทุกๆ
ปี ผู้คนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณนี้จึงต้องหาทางออกที่จะอยู่ร่วมกับความผันผวนของธรรมชาติ ด้วยการเรียนรู้และแก้ปัญหาวิธีต่างๆ
จนสั่งสมกลายเป็นภูมิปัญญาเฉพาะท้องถิ่นจำนวนมากมาย
ผลลัพธ์ของการดำเนินชีวิตและการจัดการเหล่านี้เองที่กลายเป็น
“ภูมิทัศน์วัฒนธรรม” วิถีชีวิตของผู้คนริมคลอง นิยมใช้แม่น้ำเป็นเส้นทางคมนาคม และการอุปโภค แต่น้ำสำหรับบริโภคจะรองน้ำฝนใส่ตุ่มที่วางเรียงรายอยู่หน้าบ้าน
สะพานที่ยื่นออกมาทำหน้าที่เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายจากบ้านสู่เรือที่ลอยอยู่หน้าบ้าน
นอกจากนี้สะพานยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่เอนกประสงค์สำหรับนั่งกินลมชมวิว
พบปะพูดคุยกับเพื่อนบ้านยามเย็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น