ฟื้น
ดอกบัว. (2550). พุทธปรัชญาแห่งชีวิต. กรุงเทพฯ
: สำนักพิมพ์ศยาม. หน้า 474-475
“อานิสงส์แห่งสมาธิ”
สมาธิคือ ความตั้งใจมั่นอยู่ในอารมณ์เดียว
เมื่อจิตมีสมาธิจิตก็มีพลัง
ยิ่งสงบได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มพลังอำนาจมากแต่นั้น จิตเป็นสมาธิจะมีลักษณะปรากฏเหมือน แข็งแรง
มีพลังมาก ดุจกระแสน้ำ
ที่ถูกกักกันไว้ไม่ให้ไหลไปที่อื่นไม่มีอะไรขว้างกั้นได้ มีลักษณะสงบราบเรียบลึกซึ้ง
ดุจบังหรือสระใหญ่ที่มีน้ำสงบนิ่งเพราะยังไม่ถูกอะไรมากระทบ ใส่กระจ่าง
มองเห็นอะไรได้ทุกอย่าง
และนุ่มนวลควรแก่การงาน
คือเหมาะสมแก่การงานต่างๆ เพราะสภาพจิตไม่เครียด ไม่กระด้าง
ไม่วุ่นวาย ไม่สับสน
และเร้าร้อน
ขึ้นอยู่กับผู้เป็นเจ้าของว่าจะนำไปใช้ได้อย่างไร
และนอกจากนี้ยังมีอานิสงส์ในชีวิตประจำวันที่มนุษย์เราใช้ชีวิต
คือจำเป็นต้องมีสติประคับคองอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนั้นมีอานิสงส์ในด้านการเรียน คือการเรียนต้องมีสมาธิเข้ามาช่วย
ถ้าผู้เรียนไม่มีสมาธิก็จะเรียนไม่รู้เรื่อง มีอานิสงส์ในด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ คือคนที่มีจิตใจเร่าร้อน กระสับการะส่าย เป็นนิสัย ถ้าเมื่อใดที่จิตใจสงบแล้วก็จะตรงกันข้าม ในทางการแพทย์ถือว่าสมาธิจะช่วยให้จิตสงบ
เมื่อจิตสงบก็จะทำให้ฮอร์โมนชนิดหนึ่งหลั่งออกมา ซึ่งสร้างมาจากต่อมหมวกไตชื่อ คอดิซอล
ลดลงด้วย แต่ตรงกันข้ามถ้าจิตฟุ้งซ่าน เครียดวิตกกังวล ฮอร์โมนนี้จะสูงตามไปด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น