ผ่องพรรณ ตรัยมงคลกูล. (2544). การวิจัยในชั้นเรียน. พิมพ์ครั้งที่ 3,
กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
หน้า 27-29
“การวิจัยเชิงปฏิบัติการ”
Action research ตรงกับภาษาไทยที่มีความใกล้เคียงมากที่สุดและใช้อย่างแพร่หลาย
คือ การวิจัยเชิงปฏิบัติการ ซึ่งสื่อกิจกรรมว่าประกอบด้วย การวิจัย
(การค้นหาคำตอบอย่างมีระบบแบบแผน
เชื่อถือได้) และปฏิบัติ (การนำแผนไปทดลองปฏิบัติในสถานการณ์จริง
เพื่อยืนยันผล) Kurt Lewin เป็นผู้นำมาใช้เป็นครั้งแรก
นิยามลักษณะสำคัญของการวิจัยประเภทนี้มี 4 ประการ คือ 1. เป็นการวิจัยเชิงอัตวิพากษ์
(Self-reflective inquiry) กล่าวคือ
การมองสะท้อนกลับสภาพการณ์ หรือปัญหาที่ตนเผชิญอยู่ 2. เป็นการวิจัยที่ดำเนินการโดยคนใน
ซึ่งเป็นผู้มีส่วนร่วมรับผลโดยตรงในหน่วยงานหรือชุมชนนั้น 3.
เป็นการวิจัยเพื่อหวังผลในการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงวิธีการปฏิบัติในหน่วยงานนั้น
และ 4. เป็นผลสืบเนื่องมาจากข้อ 3
คือเป็นการทดสอบวิธีการปฏิบัติจริงในสถานที่จริงโดยทันที ดังนั้น จุดเริ่มต้นของการวิจัยเชิงปฏิบัติการคือ
ความรู้สึกตระหนักในปัญหา
และเป็นการจำกัดขอบเขตและมุ่งผลภายในหน่วยงานหรือชุมชนที่ทำการวิจัย
โดยมีกระบวนการ 3 อย่างคือ 1. การวางแผนที่ได้จากการวิเคราะห์แล้ว 2. การปฏิบัติ
และ 3. การประเมินผลการปฏิบัติ
ทั้งนี้ลักษณะเด่นของการวิจัยเชิงปฏิบัติการ คือวงจรของการวิจัย
ที่อาจต่อเนื่องเหมือนเกลียว นั่นก็หมายความว่า
ผลจากการประเมินอานนำไปสู่การวางแผนและทดลองปฏิบัติใหม่ จนกว่าจะสำเร็จ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น